การเลือกซื้อหลอดไฟ วอร์มไวท์ คูลไวท์ และ เดย์ไลท์

วันที่ : 12/11/2018   จำนวนผู้ชม : 1,552

ประเภทของหลอดไฟ กับแสงสีที่ได้ดั่งใจหวัง

ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา แอดมินได้มีโอกาสไปเดินชมศูนย์การค้าจำหน่ายของตกแต่งบ้านหลายๆแห่ง โดยเน้นในการเลือกชมโคมไฟ เพื่อต้องการนำมาจัดสวนข้างบ้านตนเอง หลังจากเลือกโคมไฟได้ดั่งใจหวัง แน่นอนว่าต้องเลือกซื้อหลอดไฟแยกต่างหาก พนักงานจึงได้เอ่ยถามขึ้นมาว่า ต้องการหลอดไฟประเภทใด จึงได้ถามกลับไปว่า มีแบบใดบ้าง จึงได้คำตอบมาว่า มีแบบ Warm White และ Daylight จึงมีคำถามขึ้นภายในใจ หากบุคคลทั่วไป ที่อาจไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาก่อนที่จะเลือกซื้อ อาจทำให้มึนงงกันได้ ว่าทั้งสองชนิดนี้ มันแตกต่างกันอย่างไร มีแค่สองแบบหรือมีแบบอื่นอีกหรือไม่ จึงเป็นที่มาของบทความเล็กๆ น้อยๆ ไว้เป็นความรู้คู่บ้านกันนะครับ

 

ประเภทของแสงหลอดไฟ

1. วอร์มไวท์ (Warm White) ให้โทนแสงนวลตา เป็นสีโทนอุ่น ให้ความสว่างไม่มากนัก ออกสีทองส้ม เหมาะกับการใช้เพื่อประดับตกแต่งมากกว่าเน้นการมองเห็น ประยุกต์ใช้ร่วมกับการจัดสวนได้ดี แสงวอร์มไวท์ จะสะท้อนกับวัสดุให้แสงสีทอง ทำให้บริเวณพื้นที่ดูงดงามขึ้นมาทันตาเห็น หากนำไปใช้ตกแต่งภายใน เหมาะกับแสงภายในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องที่ใช้ในการพักผ่อน ไม่เพียงแค่สร้างความอบอุ่นเท่านั้น แต่แสงชนิดวอร์มไวท์ ยังให้ความรู้สึกโรแมนติก ผ่อนคลายอีกด้วยนะ สถานที่พักต่างๆ จึงนิยมใช้หลอดไฟชนิดนี้มาตกแต่งกัน

2. เดย์ไลท์ (Day Light) โทนแสงสว่างตา เป็นโทนแสงเดียวกับแสงกลางวัน ให้แสงสว่างสูง ออกไปในโทนสีฟ้า มองเห็นได้ชัด ให้ความรู้สึกสดใส กระฉับกระเฉง ตื่นตัว ประยุกต์ใช้กับการทำงานเป็นหลัก เช่น ห้องทำงาน ภายในออฟฟิศ สำนักงาน ห้องครัว หรือแม้แต่ห้องนอน ในมุมที่ต้องการแสงสว่างอย่างเพียงพอ อาทิเช่น มุมอ่านหนังสือ มุมทำงาน อาจเรียกได้ว่า เป็นชนิดหลอดไฟที่ได้รับความนิยมในการใช้งานมากที่สุดก็ว่าได้ เนื่องด้วยคุณสมบัติที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน สามารถนำไปใช้ได้ทุกๆงาน

3. คูลไวท์ (Cool White) โทนแสงระหว่าง วอร์มไวท์และเดย์ไลท์ เรียกได้ว่า หากใครต้องการความเป็นกลาง เลือกไม่ถูกระหว่าง 2 ตัวเลือกก่อนหน้านี้ คูลไวท์อาจเป็นอีกหนึ่งคำตอบได้เป็นอย่างดี ระดับแสงคูลไวท์ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้ทุกรูปแบบ ทั้งภายในและภายนอก ลดความอุ่นของแสงสีส้ม และลดความสว่างของแสงเดย์ไลท์ ทำให้เกิดความสมดุล ลักษณะเป็นแสงสีขาวนวลตา