วิธีออกแบบบ้านอย่างไร ไม่ให้คนอยู่เจ็บไข้ได้ป่วย

วันที่ : 12/11/2018   จำนวนผู้ชม : 1,675

นอกจากบ้านจะเป็นที่พักอาศัยแล้ว บ้านที่ดีต่อสุขภาพยังเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน บ้านอยู่แล้วมีความสุขไม่มีมลภาวะ หรือมีแหล่งทำให้เกิดโรคภัย ย่อมทำให้ผู้พักอาศัยมีความสุขกายสบายใจ ดังนั้นการออกแบบบ้านที่ดีเอื้อต่อสุขภาพจึงมีความสำคัญ และเหล่านี้คือไอเดียการออกแบบบ้านตามมุมต่างๆ ให้เหมาะสม ทำให้บ้านเป็นบ้านที่ดีต่อสุขภาพ

1.บริเวณห้องนั่งเล่น ห้องดูทีวี ห้องทำงาน หรือพื้นที่ๆ เราต้องใช้สายตามากๆ สิ่งสำคัญคือในบริเวณเหล่านั้นต้องมีแสงสว่างอย่างเพียงพอและทั่วถึง เพราะในพื้นที่เหล่านี้หากแสงสว่างน้อยเกินไป จะส่งผลต่อสายตาทำให้เกิดความล้า ไม่สบายดวงตาและอาจส่งผลไปสู่อาการอื่นๆ ดังนั้นบริเวณด้านหลังของทีวี หรือโต๊ะทำงานควรเป็นผนังทึบ และหากบริเวณนั้นมีแสงน้อยอาจเพิ่มแสงสว่างเฉพาะจุด

2.สกายไลต์ กระจกบานใหญ่ บานเกล็ด บล็อกแก้ว วัสดุเหล่านี้สามารถใช้เพิ่มแสงสว่างให้กับบริเวณทางเดินมืดๆ หรือโถงกลางบ้านที่แสงสว่างจากภายนอกส่องเข้าไม่ถึง

3.ห้องไหนที่เราใช้เวลาในแต่ละวันนานๆ เช่นห้องนอน ห้องนั่งเล่น ควรคำนึงถึงการเลือกสีที่เหมาะสม และสีที่เหมาะสมคือสีโทนอ่อนแบบสบายตา ซึ่งมีทั้งเฉดพาสเทล เอิร์ธโทน โดยควรให้ความสำคัญกับประเภทของสีเช่นควรเป็นสีน้ำอะคริลิก หรือสีที่ไม่สร้างมลพิษภายในบ้าน

4.บ้านที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชน ใกล้ถนนมีเสียงดังรบกวน อาจออกแบบให้ผนังบ้านมีความหนากว่าบ้านทั่วไป หรือใช้แผ่นดูดซับเสียง รวมไปถึงการใช้ผ้าเป็นวัสดุในการตกแต่งบ้านก็ช่วยลดเสียงจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้

5.เพิ่มเสียงธรรมชาติเช่นเสียงน้ำ เสียงนก ฯลฯ ให้กับพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้าน จะทำให้บ้านน่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยคุณอาจเลือกบริเวณที่คุณใช้เวลาสำหรับนั่งพักผ่อนในบ้านเป็นที่ตั้งของสิ่งเหล่านี้

6.กลิ่นยังเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากเรื่องของรูป เสียงแล้ว เรื่องกลิ่นยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะภายในบ้านอาจมีกลิ่นจากทั้งการปรุงอาหาร กลิ่นจากห้องน้ำ หากทำให้บ้านไร้กลิ่นหรือมีกลิ่นหอมจากของจากธรรมชาติ ทั้งน้ำมันหอมระเหย กลิ่นจากมะกรูด อาจจะวางไว้กลางบ้าน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น หรือในห้องน้ำก็ยังได้

7.การตกแต่งบ้านแบบเรียบๆ ไม่ซับซ้อน รวมถึงการเลือกวัสดุที่เหมาะสมเช่นผ้าสังเคราะห์ หนัง แทนผืนผ้าที่อมฝุ่นได้ง่ายอย่างผ้าฝ้ายก็ช่วยทำให้บ้านไม่เป็นที่สะสมของฝุ่นและเชื้อโรค

8.บ้านเย็นด้วยต้นไม้ และวัสดุที่ทำจากธรรมชาติ เช่นกระเบื้องดินเผา กระเบื้องแกรนิต รวมไปถึงการเปิดช่องไปสู่แสงและลมจากธรรมชาติ